“อาการปวดศีรษะ” ที่ดูเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป ใคร ๆ ก็เคยเป็นกัน อาจไม่ได้ธรรมดาอย่างที่คิดและยังสามารถนำไปสู่โรคอันตรายอื่น ๆ ได้อีกด้วย หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังมีอาการปวดศีรษะอยู่ ลองมาสังเกตตัวเองไปพร้อมกัน ว่าอาการปวดศีรษะแบบไหนที่ควรจะต้องระวังบ้าง
การปวดศีรษะเป็นหนึ่งในสัญญาณของโรคต่าง ๆ ทั้งแบบที่ร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ฟังแล้วอาจจะดูน่ากลัว แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไป อาการปวดศีรษะที่พบทั่วไปไม่ได้เป็นอาการของโรคที่ร้ายแรง แต่ก็ควรระวังไว้ก่อนจะดีที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงอาการเจ็บป่วยที่มากขึ้น ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้
1. การปวดศีรษะเพราะความเครียด
เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะที่ถูกกระตุ้นด้วยความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ โดยจะรู้สึกปวดตื้อ เหมือนถูกบีบรัดหน้าผาก ขมับ หรือท้ายทอย อาจเป็นแล้วหายภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือสำหรับบางคนอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะบรรเทาลง
2. การปวดศีรษะไมเกรน
เกิดจากการได้รับการกระตุ้นจากสิ่งต่าง ๆ เช่น ระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงของผู้หญิงช่วงใกล้มีประจำเดือน การดื่มกาแฟ หรือแม้กระทั่งการออกไปเจอแสงจ้า เสียงดัง โดยส่วนใหญ่จะมีอาการปวดตุบ ๆ บริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง ร้าวไปกระบอกตาหรือท้ายทอย รวมถึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ในบางคนอาจมีอาการกลัวแสงหรือเสียงร่วมด้วย
3. ปวดศีรษะแบบคลัสเตอร์
อาจเกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบประสาทสมองคู่ที่ 5 และหลอดเลือดที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีอาการปวดศีรษะติดต่อกันระยะเวลาหนึ่งแล้วหายไป มักจะรู้สึกปวดเวลาเดิม ๆ แต่จะปวดรุนแรงกว่าการปวดศีรษะไมเกรน อาจมีการปวดกระบอกตา ตาแดง น้ำตาไหล น้ำมูกไหล และหนังตาตกร่วมด้วย
เมื่อรู้จักสาเหตุและอาการปวดศีรษะที่มักจะพบกันทั่วไปแล้ว อาการปวดศีรษะของคุณเหมือนหรือต่างกันกับอาการข้างต้นอย่างไรบ้าง ถ้ายังไม่แน่ใจ ลองเช็กตัวเองเพิ่มเติมตามข้อสังเกตเหล่านี้ดู
● เช็กตำแหน่งของอาการปวด
ตำแหน่งของอาการปวดสามารถช่วยบ่งบอกเบื้องต้นได้ว่าเป็นการปวดศีรษะประเภทไหน ซึ่งถ้าสามารถบอกตำแหน่งของอาการปวดให้แพทย์ได้อย่างครบถ้วนก็จะช่วยทำให้การวินิจฉัยแม่นยำมากยิ่งขึ้น
● สังเกตลักษณะของการปวด
การปวดศีรษะแต่ละประเภทมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถสังเกตดูเบื้องต้นเองได้ เช่น การปวดตุบ ๆ ตามจังหวะหัวใจเต้น อาจมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหรือไมเกรน
● ประเมินระยะเวลาของการปวด
อาการปวดศีรษะในกลุ่มโรคที่ไม่อันตราย ส่วนมากระยะอาการจะสั้น อาจเป็น ๆ หาย ๆ และมีช่วงที่หายสนิท แต่ถ้าเป็นกลุ่มโรคที่อันตราย จะเป็นการปวดศีรษะแบบเรื้อรัง ปวดแล้วไม่หายแม้ทานยา รวมถึงอาจมีการปวดที่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
หลังจากผ่านการเช็กอาการตัวเองมาทั้งหมด หากคุณมีอาการปวดศีรษะที่รุนแรงขึ้นและถี่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อ ไอ จาม หรือมีอาการปวดแบบฉับพลัน คล้ายศีรษะจะระเบิด อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณของโรคที่อันตราย เช่น เนื้องอกในสมอง เส้นเลือดใต้เยื่อหุ้มสมองโป่งพอง เป็นต้น ควรต้องรีบเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาจากแพทย์โดยทันที ดังนั้น อย่ามองข้ามอาการปวดศีรษะธรรมดาที่ใคร ๆ ก็คิดว่าไม่เป็นไรไป เพราะปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ หากตรวจพบเร็วและบอกอาการได้อย่างชัดเจน ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะลดความรุนแรงของโรคได้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา การมีประกันสุขภาพไว้สักเล่มก็จะช่วยให้คุณคลายกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลไปได้
ดังนั้น อย่ามองข้ามอาการปวดศีรษะธรรมดาที่ใคร ๆ ก็คิดว่าไม่เป็นไรไป เพราะปัญหาสุขภาพเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ หากตรวจพบเร็วและบอกอาการได้อย่างชัดเจน ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะลดความรุนแรงของโรคได้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมา การมีประกันสุขภาพไว้สักเล่มก็จะช่วยให้คุณคลายกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลไปได้